รู้จักกับโยเกิร์ต
โยเกิร์ต เป็นอาหารยอดฮิตสำหรับสาวๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะถ้าเลือกกินแบบสูตรธรรมชาติ จะช่วยให้อิ่มท้องโดยที่แคลอรี่ต่ำ แถมยังช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้อีกด้วย แต่นอกจากช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกมากมาย ซึ่งโยเกิร์ตมีทั้งคนที่ชอบกินและไม่ชอบกิน คนที่ไม่ชอบกินจะบอกว่ารสชาติเปรี้ยวเหมือนนมบูด ซึ่งจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด เพราะโยเกิร์ตคือนมที่ได้มาจากการหมัก ทำโดยการเพาะเชื้อแบคทีเรียลงไปในนม แบคทีเรียนี้จะกินน้ําตาลในนมเพื่อให้ได้พลังงาน แล้วปล่อยกรดแล็กติกออกมา ทําให้น้ํานมแข็งตัวมาเป็นโยเกิร์ต เชื้อแบคทีเรียที่นิยมนำมาทําโยเกิร์ต ได้แก่ แล็กโตบาซิลลัส บัลการคัส, สเตร็ปโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส และแล็กโตบาซิลลัส อะชิโดฟิลัส ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้เมื่อกินแล้วจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น
โยเกิร์ตจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่านม เพราะได้ผ่านการย่อยแล้ว จึงทําให้ดูดซึมได้ง่าย และช่วยปรับภาวะกรดและด่างในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะในลําไส้ การกินโยเกิร์ตจะทําให้ในลําไส้มีความเป็นกรดมากขึ้น ช่วยกำจัดแบคทีเรียในลําไส้ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
คุณประโยชน์ของโยเกิร์ต ที่คุณไม่ควรพลาด
โยเกิร์ตช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น
โยเกิร์ตสามารถป้องกันโรคได้ โดยแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในโยเกิร์ต จะช่วยลดอาการท้องเสียในเด็กอ่อน หยุดอาการของโรคลําไส้อักเสบ และยังบรรเทาอาการจากอาหารเป็นพิษได้
โยเกิร์ตช่วยรักษาสมดุลในร่างกายได้เป็นอย่างดี
- กําจัดเชื้อราในช่องคลอด การรับประทานโยเกิร์ตสัปดาห์ละ 3 – 5 ครั้ง จะช่วยทำให้เกิดความสมดุลของกรดและด่าง แถมยังป้องกันการเติบโตของเชื้อราได้อีกด้วย
- ปกป้องกระเพาะปัสสาวะ ถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้หญิงหลายๆ คนที่มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ การรับประทานโยเกิร์ตอาจช่วยคุณได้
- ต่อสู้กับมะเร็ง ช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกซ้ําในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะไปแล้ว ดูเหมือนว่า แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์อาจจะป้องกันแบคทีเรียร้ายไม่ให้สร้างสารก่อมะเร็งขึ้นในร่างกาย
- เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง คนที่กินนมไม่ได้เพราะแพ้แลคโตส ควรหันมากินโยเกิร์ตแทน เพราะแบคทีเรียที่มีอยู่ในโยเกิร์ตได้ย่อยน้ําตาลแลคโตสไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคนที่กินนมแล้วมีอาการแพ้ จึงสามารถกินโยเกิร์ตได้โดยไม่มีอาการท้องอืด หรืออาการไม่สบายอื่นๆ นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังมีแคลเซียมมากกว่าน้ํานมอีกด้วย โดยใน 1 ส่วน จะมีแคลเซียมถึง 400 มก.
- ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย โดยปกติเรามักได้ยินว่าเมื่อมีอาการท้องเสียให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จำพวกนมหรือที่ทำจากนม แต่นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตต้องถือเป็นข้อยกเว้น เพราะถึงแม้จะทำจากนม แต่โยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติก (Probiotic) หรือแบคทีเรียที่มีชีวิต เช่น แลคโตบาซิลลัส บิฟิโดแบคทีเรียม บางชนิดบางสายพันธุ์ กลับเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหากได้รับในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งในกรณีท้องเสีย โยเกิร์ตประเภทนี้จะเข้าไปสร้างสมดุลในลำไส้และช่วยยับยั้งอาการปวดท้องหรือท้องเสียที่เกิดจากเชื้อโรคได้
รู้ไหมว่า ควรเลือกโยเกิร์ตแบบไหนดี?
ไม่ใช่ว่าผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตทั้งหมดที่วางจำหน่ายอยู่จะมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ วิธีการเลือกซื้อคือ ควรเลือกโยเกิร์ตที่มีคําว่า live หรือ “active” หรือ bio’ เขียนอยู่บนฉลาก และควรเลือกซื้อและกินโยเกิร์ตที่ยังใหม่และห่างจากวันที่หมดอายุมากๆ เพื่อให้แน่ใจว่ายังมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์เพียงพอต่อความต้องการ
บทส่งท้าย
ถ้าคุณไม่ชอบกินโยเกิร์ต มีอีกทางเลือกหนึ่งคือ ให้กินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจําพวกโปรไบโอติกส์แทน นักวิจัยแนะนำว่าคุณต้องการแบคทีเรียวันละ 10,000 ล้านตัว ไม่ต้องตกใจ เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบันทานแค่ 1-2 แคปซูลก็เพียงพอแล้ว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทนี้ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เพราะโปรไบโอติกส์เป็นสิ่งมีชีวิต แต่อย่านําไปใส่ในช่องทําน้ําแข็ง หรือวางไว้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิร้อนจัด เพราะแบคทีเรียมีประโยชน์ในโยเกิร์ตจะถูกทำลายหมด