สารพันเทคนิคพิชิต สิว

ไหนว่าเรื่อง สิว ๆ ไง!!

ถ้านักวิทยาศาสตร์สามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้ คุณคงถามเขาไปแล้วว่าทําไมถึงไม่หาวิธีกําจัดสิวไปเสียที แต่ในเมื่อยังไม่มีวิธีรักษาที่แน่ชัด จึงขึ้นอยู่กับตัวคุณเองที่ต้องจัดการกับจุดแดงๆ บนใบหน้า ซึ่งทําลายรูปลักษณ์และความมั่นใจของคุณมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น

สิวเกิดขึ้นได้อย่างไร

ตามปกติผิวหนังจะมีน้ํามันอยู่ตามธรรมชาติ แต่เมื่อผิวผลิตน้ํามันออกมามากเกินไป จะอุดตันรูขุมขนทําให้เกิดสิว สิวมี 2 ประเภทคือ สิวแบบธรรมดา (acne Vulgaris) ซึ่งอาจเป็นสิวอุดตันหรือตุ่มแดง ๆ ขึ้นอยู่ตามใบหน้า หน้าอก ไหล่ หรือหลัง สิวอีกชนิดคือ สิวหัวช้าง (cystic acne) ซึ่งเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง ขึ้นเป็น เม็ดใหญ่และเจ็บมาก ปัจจัยที่ทําให้ผิวหนังผลิตน้ํามันมากขึ้น ได้แก่ ฮอร์โมนสูงขึ้น ช่วงเป็นวัยรุ่น กินยาคุม มีประจําเดือน ตั้งครรภ์ หรือในช่วงที่ร่างกายใกล้หมดประจําเดือน นอกจากนี้ยัง อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น เครื่องสําอาง การอาบแดด หรือความเครียด และมีหลายเคสที่สิวมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม


สารพันวิธีธรรมชาติ ที่ช่วยลดสิว ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าดี

เมื่อมีสิวผุดขึ้นมา คุณอาจซื้อยายี่ห้อต่างๆ มาใช้ แต่เรามีวิธีธรรมชาติดีๆ ในการรักษาสิวมาแนะนําดังต่อไปนี้ ลองไปดูกันได้เลย


5 ทางเลือกใหม่ในการรักษาสิว ด้วยวิธีธรรมชาติ

สิว-001

  1. น้ํามันทีทรี (tea tree oil) จะช่วยฆ่าเชื้อและเร่งให้หายเร็วขึ้น ใช้น้ํามันทีทรี 1 หยด ทาวันละ 3 ครั้ง มีงานวิจัยพบว่าน้ํามันทีทรี 5% สามารถรักษาสิวได้มีประสิทธิภาพเท่าๆ กับน้ํายาเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ 5%
  2. สําหรับคนที่มักเป็นสิวช่วงก่อนมีประจําเดือน ลองดื่มชาเชสต์เบอร์รี (chasteberry) วันละ 1-2 ถ้วย มีบางการศึกษาบ่งชี้ว่าสมุนไพรชนิดนี้ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของผู้หญิง แต่ต้องใช้เวลา 2-3 เดือนจึงเห็นผล แต่ห้ามดื่มชามากเกินไปเพื่อหวังผลมากขึ้น เพราะอาจทําให้ผิวของคุณแย่ลง
  3. ใช้สําลีจุ่มน้ําส้มสายชูหมักจากน้ําแอปเปิล (apple vinegar) หรือน้ํามะนาวทาสิว กรดในน้ําส้มและน้ํามะนาวจะช่วยขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน การทายาสีฟันบนหัวสิวที่อักเสบก็ใช้ได้เช่นกัน ควรทาไว้ก่อนเข้านอน
  4. ตํารับยารักษาสิวแบบดั้งเดิมอีกอย่างคือ ใช้น้ําผึ้งผสมเครื่องเทศ ใช้ผงจันทน์เทศ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ําผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ทาสิวทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก แม้ยังไม่มีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าสูตรนี้ได้ผลอย่างไร แต่น้ําผึ้งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้จริงๆ
  5. ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ มีการศึกษาหนึ่งพบว่า ผิวหนังที่ได้รับความเสียหาย ร้อยละ 90 อาการดีขึ้นเมื่อรักษาด้วยว่านหางจระเข้นาน 5 วัน คุณอาจใช้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ หรือใช้วุ้นจากใบว่านสดมาทาผิวโดยตรงเลย

#รักษาความสะอาดใบหน้ายังไงให้ห่างไกลสิว

สิว-002

  • คุณอาจคิดว่าการดูแลให้ผิวสะอาดอยู่ตลอด จะป้องกันรูขุมขนอุดตันได้ แต่การรักษาความสะอาดเกินไปจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ํามันออกมามากขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผิวที่มีเม็ดขัดผิว และอย่าใช้ผ้าเช็ดหน้า เพราะจะขัดถูทําให้ระคายเคืองและยังเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย ควรใช้สําลีหรือแผ่นทําความสะอาดแทนจะดีกว่า
  • ทําน้ํายาทําความสะอาดผิวสูตรทําเอง โดยใช้เกลือเอปซอม (Epsom salt) 1 ช้อนชาและไอโอดีน 3 หยด ผสมในน้ํา 125 มล. นําไปต้ม ทิ้งไว้ให้ เย็น แล้วใช้สําลีชุบ นำมาเช็ดทําความสะอาดหน้า
  • สําหรับผู้ชาย ควรทําความสะอาดมีดโกนหนวดด้วยน้ํายาทําความสะอาดแผล เพื่อยับยั้งการสะสมของแบคทีเรีย

#ลบเลือนสิวแบบเร่งด่วน หายจริงๆนะเธอว์

  • วิธีแรกคือใช้ยาแก้สิวที่อาจเป็นครีม โลชั่น ยาน้ํา หรือเจลที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) ซึ่งจะเร่งให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกเร็วขึ้นโดยไม่ทําอันตรายผิว และส่งผลให้รูขุมขนที่อุดตันเปิดออก เบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ยังช่วยฆ่าแบคทีเรียที่ทําให้รูขุมขนที่อุดตันเกิดการติดเชื้อด้วย

สารในกลุ่มกรดอัลฟาไฮดรอกซีหรือเอเอชเอ (alpha-hydroxy acid: AHA) เช่น กรดไกลโคลิก (Glycolic acid) จะกําจัดผิวหนังที่ตายแล้วชั้นบนสุด ช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตัน คุณอาจใช้ครีม โลชั่น หรือเจลที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกมาใช้ได้

  • ทันทีที่เห็นสัญญาณว่าจะเกิดสิว ให้รีบประคบน้ําแข็ง โดยเอาก้อนน้ําแข็งห่อไว้ในผ้าหรือถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง ใช้ประคบจุดที่มีอาการอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกๆ ชั่วโมงยิ่งดี โดยแต่ละครั้งให้ประคบไม่เกิน 5 นาที ความเย็นจะช่วยลดอาการบวมแดงและบรรเทาอาการอักเสบ
  • กินแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน ยาแก้ปวดเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านอักเสบและยับยั้งการลุกลามของสิว โดยกินตามคําแนะนําบนฉลากวันละ 4 เวลา (ห้ามกินแอสไพรินติดต่อกันเกิน 2-3 วันโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน และไม่ควรให้เด็กอายุต่ํากว่า 16 ปีกินแอสไพริน)

คำถามประจำชาติ: บีบสิวดีไหมคะ?

สิว-003

ถ้าคุณต้องจัดการสิวบนใบหน้า ต่อไปนี้คือวิธีที่แพทย์ผิวหนังแนะนําว่าใช้ได้กับสิวอุดตัน เริ่มจากทําความสะอาดบริเวณที่เป็นสิว ฆ่าเชื้อที่เข็มโดยลนไฟหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์เช็ดแผล จากนั้นค่อย ๆ สะกิดที่สิว ใช้สําลีซับหนองออก แล้วทําความสะอาดแผลด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ อย่าใช้มือบีบเค้นหรือกดสิว เพราะจะยิ่งทําให้อาการแย่ลง ส่วนสิวหัวดํานั้นอาจใช้เครื่องมือกดสิวซึ่งมีขายทั่วไปที่ร้านขายยาหรือห้างสรรพสินค้า โดยควรประคบร้อน 10 นาทีก่อนกดสิว

สิวแบบไหน ที่น่าจะต้องไปหาหมอดูสักที

การมีสิวแบบเป็น ๆ หาย ๆ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่หากซื้อยามาใช้แล้วไม่ได้ผลภายใน 3 เดือน หรือผิวได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสิวอุดตันที่ขึ้นลุกลามและทําให้เจ็บปวด ก็ควรไปพบแพทย์ หากสังเกตพบว่าผิวหนังเป็นสีแดงอยู่เรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้เป็นสิว ก็ควรไปพบแพทย์เช่นกัน เพราะอาจเป็นอาการของโรคผิวหนังอย่างผื่นโรเซเชีย ซึ่งจะทําให้เกิดผื่นแดง สิว และหลอดเลือดขยายตัว

พบกับเทคนิคและวิธีดี ๆ ในการดูแลตัวเอง สำหรับคนที่ผิวหน้ามัน เป็นสิวได้ง่าย ซึ่งแต่ละวิธีก็ดีงามทั้งนั้นเลยใช่ไหมล่ะคะ ลองเอาคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้ดู แล้วถ้ามีวิธีอื่น ๆ อีก ก็เขียนแนะกันมาได้เลยนะคะ

error: Content is protected !!