วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็น “ตาแดง”

“ตาแดง” โรคติดต่อที่มาพร้อมกับหน้าฝน

เข้าหน้าฝนทีไร ต้องเห็นคนเป็นโรคตาแดงกันมากมาย โดยเฉพาะเด็ก ๆ บางครั้งติดกันแทบทั้งห้องเลยก็ยังมี “ตาแดง” คือ อาการของเยื่อบุตาอักเสบ คันตา เจ็บตา หรือระคายเคืองคล้ายกับมีเม็ดทรายเข้าตา ในกรณีที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสนั้น นอกจากจะเป็นอันตรายกับดวงตาแล้วยังอาจติดต่อได้ด้วย

ดังนั้นคุณจึงควรไปพบแพทย์ หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะชนิดหยอดตาเพื่อให้หายเร็วขึ้นและหยุดการระบาด การดูแลนอกเหนือจากนี้คือ วิธีบรรเทาอาการคันและจัดการกับขี้ตา ทำอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

ตาแดง เกิดจากอะไร?

เยื่อบุตา คือ เยื่อบางใสที่บุเปลือกตาด้านในและหุ้มรอบลูกนัยน์ตา เมื่ออักเสบจะมีอาการตาแดง คัน และมี ขี้ตาเหนียว สาเหตุสําคัญคือ การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส หรือเกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้เมื่อสัมผัสละอองเกสร เครื่องสําอาง คอนแทคเลนส์ หรือสารเคมีต่าง ๆ เยื่อบุตาอักเสบแต่ละประเภททําให้เกิดอาการต่างกันไปตั้งแต่แสบร้อน คัน น้ําตาไหล แพ้แสง หรือมีขี้ตามาก จนเปลือกตาติดกันเมื่อตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า

conjunctivitis

รูปภาพจากเว็บไซต์ www.conestogaeye.com

วิธีบรรเทาอาการตาแดงเบื้องต้น

  • ประคบร้อนหรือเย็นล้วนช่วยได้ทั้งสิ้น หากมีขี้ตามากให้ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ หรือสําลีสะอาดชุบน้ําอุ่นประคบตา เพื่อป้องกันไม่ให้ขี้ตาที่แห้งกรัง ติดกับขนตา การประคบเย็น (ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ําผสมน้ําแข็ง) ช่วยลดอาการบวมและคันได้ ซึ่งพบบ่อยในเยื่อบุตาอักเสบจากการแพ้ คุณสามารถประคบอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างนาน 5 นาที วันละ 3-4 ครั้ง และควรเปลี่ยนผ้าใหม่ทุกครั้ง
  • ทําความสะอาดภายนอกตาด้วยก้อนสําลีชุบแชมพูเด็ก 1 ส่วน ผสมกับน้ําอุ่น 10 ส่วน น้ําอุ่นช่วยละลายคราบขี้ตา ขณะที่แชมพูช่วยทําความสะอาดบริเวณโคนขนตาได้ดี

 Tips:  ทาขี้ผึ้งก่อนนอนก็ช่วยได้นะ!

หากแพทย์จ่ายยาปฏิชีวนะหรือยาสเตียรอยด์ชนิดหยอดตาหรือขี้ผึ้งสําหรับป้ายตาก่อนนอน ไม่ควรใช้ยามากเกินไปเพราะอาจทําให้เปลือกตาเชื่อมติดกันเหมือนทากาว ขณะหยอดหรือป้ายตา ระวังอย่าให้หลอดยา สัมผัสดวงตา มิฉะนั้นเชื้อโรคจะปนเปื้อนทําให้เกิดการติดเชื้อได้


วิธีบรรเทาอาการปวดที่ทำกันมาตั้งแต่โบราณ

  • ประคบตาด้วยคาโมไมล์ แช่ถุงชาคาโมไมล์ในน้ําอุ่น 2-3 นาที คั้นน้ําออกแล้วประคบตานาน 10 นาที วันละ 3-4 ครั้ง เปลี่ยนถุงชาใหม่ทุกครั้ง ควรหลับตาขณะประคบเพื่อป้องกันน้ําชาไหลเข้าตา
  • อายุรเวทหรือการแพทย์พื้นบ้านของอินเดีย แนะนำให้ใช้ใบผักชีสด ซึ่งช่วยรักษาเยื่อบุตาอักเสบได้ ให้ใช้ใบผักชีสดหนึ่งกํามือผสมกับน้ํา 100 มล. ปั่นในเครื่องผสมอาหาร คั้นน้ําออก ใช้กากที่เหลือประคบขณะหลับตานาน 2-3 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาดก่อนลืมตา
  • การรักษาแนวอายุรเวทอีกวิธีหนึ่งคือ ใช้เมล็ดผักชี 1 ช้อนชาต้มในน้ําเดือด 1 ถ้วย นาน 15 นาที กรองกากออกแล้วทิ้งไว้จนเย็น นำมาใช้ล้างทําความสะอาดเปลือกตา
  • ซักผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า และปลอกหมอนทุกวัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซ้ําหรือลุกลามไปอีกข้างหนึ่ง และป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นด้วย
  • ควรให้ผู้อื่นช่วยจัดเตียงให้ การจัดเตียงเองอาจทําให้โรคแพร่กระจาย เนื่องจากมือสัมผัสผ้าปูที่นอน
  • เมื่อมีเด็กที่บ้านเป็นเยื่อบุตาอักเสบ ควรให้อยู่บ้าน ไม่ควรไปโรงเรียนหรือ สถานเลี้ยงเด็ก เพราะเด็กมักไม่เคร่งครัดกับสุขอนามัยส่วนตัว เช่น ไม่ชอบ ล้างมือและชอบขยี้ตา อย่างไรก็ตามสถานเลี้ยงเด็กส่วนใหญ่มักไม่อนุญาต ให้เด็กที่มีอาการเยื่อบุตาอักเสบเข้าห้องเรียนอยู่แล้ว

เป็นตาแดงแล้ว ต้องอย่าเอาไปติดคนอื่นอีก.

wash-hand

  • งดใช้เครื่องสําอางรอบดวงตาและคอนแทกเลนส์จนกว่าจะหาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ํา ควรทิ้งเครื่องสําอางสําหรับทาตาที่เคยใช้ขณะมีอาการติดเชื้อ
  • อย่าสัมผัสดวงตา หากสัมผัสโดยบังเอิญให้ล้างมือด้วยสบู่ และเช็ดให้แห้งด้วยกระดาษหรือเครื่องเป่าลมร้อน อย่าใช้ผ้าเช็ดมือ
  • หากจําเป็นต้องเช็ดหรือขยี้ตา ควรใช้กระดาษชําระข้างละแผ่นไม่ปะปนกัน และล้างมือให้สะอาด
  • ถ้าต้องออกไปทําธุระข้างนอกบ่อยๆ ควรพกเจลฆ่าเชื้อแบคทีเรียสําหรับล้างมือไปด้วยและหมั่นใช้อยู่เสมอ
  • ผู้ที่สวมคอนแทคเลนส์ควรงดใช้ชั่วคราวระหว่างมีอาการเยื่อบุตาอักเสบ ให้ถอดล้างฆ่าเชื้อโรคและเก็บไว้ใช้อีกครั้งหลังจากหายเป็นปกติแล้ว ควรล้างมือเสมอ ทั้งก่อนและหลังถอดคอนแทตเลนส์

รู้จักกับเยื่อบุตาอักเสบทั้ง 3 ประเภท

เยื่อบุตาอักเสบมี 3 ประเภทคือ เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อไวรัส อักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย และอักเสบจากการแพ้ อาการของทั้ง 3 ประเภทคล้ายกัน แต่แพทย์สามารถวินิจฉัยแยกความแตกต่างได้

1. เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อไวรัส

  • อาการมักเริ่มต้นกับตาข้างหนึ่ง และอาจลามไปอีกข้างหนึ่ง
  • ขี้ตาสีขาวใส
  • เคืองตา ตาแดง

2. เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

  • มักเป็นกับดวงตาเพียงข้างเดียว แต่อาจลามไปอีกข้างหนึ่ง
  • เคืองตา ตาแดง
  • มีขี้ตามาก

3. เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ อาจจะมีอาการขี้ตาเป็นสาย คันตามาก อาจจะต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้จัดยาลดการอักเสบ และลดอาการบวมให้ทานด้วย นอกจากนี้ก็ยังควรเพิ่มการทานวิตามินซี ทั้งจากผลไม้ และจากวิตามินซีแบบเม็ด เพื่อให้ลดอาการตาอักเสบจากภูมิแพ้ให้ได้เร็วที่สุด

  • มักเกิดกับตาทั้งสองข้าง
  • คันตา น้ําตาไหล
  • เปลือกตาบวม

 Tips:   รู้หรือไม่?

เคยสังเกตุไหมคะว่า เวลาเรามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาอย่างไรก็ตาม ก็มักจะหายได้เอง ไม่ต้องรักษาหรือกินยา ก็มักจะหายเองได้เสมอ นั่นก็เพราะว่า น้ำตาของคนเรา มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น เราจึงมักจะเห็นว่า โรคตาแดง หรือโรคเยื่อบุตาอักเสบมักจะหายเองได้ ถึงแม้จะไม่กินยาหรือประคบร้อนอะไรเลยก็ตาม


  Warning   ควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการเหล่านี้

ควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการเหล่านี้

ถ้ามีอาการตาแดงอย่างเดียว ถือว่าไม่รุนแรง มักเกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งอาการจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์ แต่บางอาการอาจลุกลามเป็นอันตรายต่อดวงตา เช่น มองภาพไม่ชัด มีตุ่มใสใกล้ตา อาการไม่หายภายใน 1 สัปดาห์หรือไม่ดีขึ้นภายใน 3-4 วันทั้งที่รักษาสม่ําเสมอ ควรรีบไปพบแพทย์ ถ้าเกิดจากติดเชื้อแบคทีเรียควรรีบรักษาโดยเร็วเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน


 

error: Content is protected !!