ประโยชน์ของมะนาว ที่มากกว่าความอร่อย

มะนาว มีดีมากกว่าความเปรี้ยว

“มะนาว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus aurantifolia (Christm.)”

เมื่อคุณจิบน้ํามะนาวคั้นสดๆ หรือดูดน้ําจากผลมะนาวฝานเป็นแว่น คุณได้สิ่งที่มากกว่ารสชาติเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน มะนาวเป็นแหล่งอันอุดมของสารประกอบทางเคมีที่มีฤทธิ์บําบัดโรค ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย เสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด ช่วยสมานผิว และอาจขัดขวางไม่ให้เซลล์บางชนิดเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ด้วยซ้ํา ใช้มะนาวทาถูซอกรักแร้เพียงครู่เดียวช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ น้ํามะนาวที่บีบลงในน้ําร้อนและน้ําผึ้งเป็นดั่งน้ําอมฤตที่ช่วยแก้อาการเจ็บคอ และมะนาวยังเป็นส่วนผสมสําคัญในยาแก้ไอสูตรทําเองด้วย

ผลไม้ประจำเรือ

หลายศตวรรษก่อน กะลาสีเรืออังกฤษบรรทุกมะนาวลงเรือไปด้วยเพื่อกินป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซี มะนาวแต่ละลูกมีวิตามินซี 40 มก. เท่ากับปริมาณแนะนําต่อวันพอดี เดี๋ยวนี้เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโรคเลือดออกตามไรฟันอีกต่อไป เพราะเราได้รับวิตามินซีจากแหล่งอาหารต่างๆ แต่มะนาวมีประโยชน์มากกว่านั้นอีกมากมาย

ประโยชน์ของพืชในตระกูลมะนาว

อย่าประเมินคุณค่าของวิตามินซีต่ําไป รวมทั้งคําแนะนําให้ดื่มน้ํามะนาวเวลาเป็นหวัดด้วย วิตามินซีในมะนาวลดระดับฮิสตามีนซึ่งเป็นสารเคมีที่ทําให้เกิดอาการคัดจมูก น้ํามูกไหล และตาแฉะ วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงอานุภาพ ช่วยลดระดับอนุมูลอิสระซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่เซลล์ นอกจากนี้วิตามินซียังอาจป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย (ผลการศึกษา หลายครั้งแสดงให้เห็นว่าระดับวิตามินซีต่ําจะทําให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายมากขึ้น เมื่อคอเลสเตอรอลทําปฏิกิริยากับออกซิเจน หรือรวมตัวกับอนุมูลอิสระ มันมักเปลี่ยนเป็นพลัค (plaque) ไปอุดตันหลอดเลือดแดง) ร่างกายเราใช้วิตามินซีกระตุ้นการทํางานของเซลล์ภูมิคุ้มกันและการผลิตคอลลาเจนที่เสริมสร้างเนื้อเยื่อ จึงช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น

ประโยชน์ของมะนาว ที่พิสูจน์แล้วว่าดีจริง

ประโยชน์และสรรพคุณของมะนาว ได้มีการวิจัยและทดสอบกันอยู่ตลอด วันนี้ ป่วยให้น้อย.com ก็ได้นำประโยชน์ของมะนาว ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกแล้ว ซึ่งดูแล้วก็น่าสนใจทั้งนั้นเลย มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ที่ทำให้เราเพลิดเพลินกับความเปรี้ยวอร่อยของมะนาว และได้ประโยชน์ดีๆ กลับมาด้วย

1. ลดการเกิดนิ่วในไต

น้ํามะนาวอุดมด้วยกรดซิตริก (citric acid) สารเคมีที่ช่วยลดการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย และช่วยป้องกันการก่อตัวของก้อนนิ่ว การดื่มน้ํามะนาวที่ทําจากมะนาวสดผสมน้ําตาลเล็กน้อย วันละ 2 ลิตรได้ผลดีพอๆ กับการรักษาด้วยยาซิเตรตเลยทีเดียว

2. หลอดเลือดดําแข็งแรงขึ้น

มะนาวมีไบโอฟลาโวนอยด์ (กลุ่มพฤกษเคมีที่ต้านอนุมูลอิสระ) ที่เรียกว่า รูติน (rutin) อยู่มาก ทําให้ผนังหลอดเลือดดําและหลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น จึงช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการเกิดเส้นเลือดขอดได้

3. ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม

สารเคมีอีกชนิดที่พบในเปลือกมะนาวและเยื่อขาวใต้เปลือกคือ ไลโมนีน (limonene) จากผลการทดลอง ไลโมนีนสามารถต้านการเกิดเนื้องอกได้อย่างมีนัยสําคัญ ขณะนี้นักวิจัยกําลังศึกษาการใช้ สารไลโมนีนในการรักษาและป้องกันโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม นักวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบไลโมนีนในห้องทดลอง และพบว่าสามารถยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมในคนได้ นอกจากนี้ยังทําให้เอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) แตกตัวไปอยู่ในรูปอื่นที่มีฤทธิ์กระตุ้นมะเร็งน้อย ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญมาก เพราะการมีเอสโตรเจนสูงยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น นอกจากนี้ไลโมนีนยังกระตุ้นการทํางานของตับในการขจัดสารก่อมะเร็ง (carcinogen) ออกจากกระแสเลือดด้วย

4. ประโยชน์ด้านความงาม

ถ้าใช้น้ํามะนาวทาบริเวณผิวที่ตกกระบ่อย ๆ รอยตกกระจะหายได้ในที่สุด ใช้แต้มบริเวณที่เป็นสิวก็ช่วยให้หายเร็วขึ้น

5. ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง

ในบ้านเราแม้แดดจะแรง แต่คนก็ไม่ได้นิยมการนอนอาบแดดเหมือนต่างชาติ โดยสำหรับที่ต่างประเทศแล้ว มันจะนิยมการดื่มชามะนาวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความเชื่อว่าชามะนาวลดความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง โดยผลการศึกษาในคน 450 คน พบว่าผู้ที่ดื่มชาที่เติมน้ํามะนาวลงในชา จะลดความเสี่ยงต่อมะเร็งบางชนิด อาจเป็นเพราะมะนาวไปกระตุ้นให้เอนไซม์กลูตาไทโอน เอส-ทรานสเฟอเรส (glutathione S-transferase) ขับสารก่อมะเร็งออกมา ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยอยู่

“เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เห็นประโยชน์ของมะนาวแบบนี้แล้ว มื้ออาหารต่อไป ก็อย่าลืมบีบมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวกลมกล่อมกันด้วยนะคะ”