ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูต่อร่างกาย

น้ําส้มสายชู ตัวช่วยสารพัดประโยชน์ที่หลายคนอาจยังไม่ทราบคุณค่า

รสชาติเปรี้ยวจัดของน้ําส้มสายชูสามารถต่อสู้กับเชื้อราและแบคทีเรียได้ดี มันช่วยขจัดอาการคันเมื่อถูกยุงกัด บรรเทาอาการแสบผิวที่ไหม้แดด เป็นยาแก้ท้องไส้ไม่ปกติ ป้องกันหูชั้นนอกอักเสบ ช่วยให้ผมเงางามและนุ่มสลวยยิ่งขึ้น บางคนบอกว่าน้ําส้มสายชูผสมน้ําผึ้งและน้ําอุ่นบรรเทาอาการปวดจากขาเป็นตะคริวได้ บางคนใช้น้ําส้มสายชูเช็ดแผลเริมที่ปาก และถ้าเป็นลม ก็สามารถใช้น้ําส้มสายชูเป็นยาดมได้

หยดน้ําส้มสายชูเพียงหยดเดียวลงบนลิ้น คุณก็จะรับรู้รสเปรี้ยวของมันได้ทันที รสเปรี้ยวจี๊ดมาจากกรดอะซิติก (acetic acid) หรือกรดน้ําส้มซึ่งเกิดจากแบคทีเรียย่อยสลายของเหลวที่ถูกหมัก น้ําส้มสายชูอาจถูกตัวคุณได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นผลิตภัณฑ์ออกฤทธิ์แรงที่ใช้ในทางอุตสาหกรรม เราใช้น้ําส้มสายชูนับหลายล้านตันในการผลิตฟิล์มถ่ายรูป และเส้นใยเทียม เช่น ไหมสังเคราะห์ เป็นต้น


9 ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูต่อร่างกาย

1. ต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียในยามจำเป็น

น้ําส้มสายชูเป็นอาวุธทรงประสิทธิภาพในการต่อสู้กับแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อโรคต่างๆ ถูกกําจัดไปครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยน้ําส้มสายชู ในสงครามโลกครั้งที่ 1 เราใช้น้ําส้มสายชูทําความสะอาดบาดแผลให้ทหาร และแม้แต่ทุกวันนี้ ถ้าคุณมีแผลขีดข่วนหรือรอยถลอก ถ้าหายาฆ่าเชื้อไม่ได้จริง ๆ แค่ใช้น้ําส้มสายชูฆ่าเชื้อโรคก็พอแล้ว เชื้อโรคก็เหมือนกับเชื้อรา ส่วนใหญ่มักล่าถอยเมื่อมาเจอกับน้ําส้มสายชู

2. บำรุงผิวพรรณขั้นเทพ

น้ำส้มสายชูสระผม

น้ําส้มสายชูดีสําหรับผมและผิวพรรณด้วย เนื่องจากเป็นกรด น้ําส้มสายชูจึงทําปฏิกิริยากับสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างแล้วได้ H0 (น้ํา) และเกลือจํานวนหนึ่ง เมื่อนํามาทาผิวหรือใช้ล้างผมเป็นน้ําสุดท้ายหลังสระ จะกําจัด สารตกค้างจากสบู่ แชมพู หรือครีมนวดออกไป การใช้น้ําส้มสายชูล้างผมยังอาจช่วยลดรังแคและอาการคันศีรษะได้ด้วย

3. ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร

นอนตะแคงซ้ายช่วยลดกรดไหลย้อน

แก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ถ้าคุณต้องทรมานจากภาวะอาหารไม่ย่อยเพราะมีน้ําย่อยน้อยเกินไป ก็อาจแก้ปัญหาโดยกินน้ําส้มสายชูสัก 1 ช้อนโต๊ะหลังอาหาร (แต่ถ้าปัญหาของคุณคือการมีน้ําย่อยในกระเพาะอาหารมากเกินไป น้ําส้มสายชูจะทําให้อาการเลวร้ายกว่าเดิม

4. ช่วยลดความร้อนจากแดดได้ดี

ลดความร้อนเวลาโดนแดด

สารช่วยลดความร้อน นําน้ําส้มสายชูมาทาผิว เมื่อน้ําส้มสายชูระเหย ไปอย่างรวดเร็ว จะหอบเอาความร้อนจากผิวไหม้แดดออกไปด้วย ทําให รู้สึกเย็นสบาย น้ําส้มสายชูยังมีฤทธิ์ต้านอักเสบจึงบรรเทาอาการอักเสบและคันจากผิวไหม้แดดได้อีกด้วย

5. นักฆ่าเชื้อราอันดับหนึ่ง

  • นักฆ่าแบคทีเรียและนักต่อสู้กับเชื้อรา เมื่อแบคทีเรียหรือเชื้อราแบ่งตัวและเติบโตในรูหูที่อุ่นขึ้น จึงเกิดอาการหูชั้นนอกอักเสบ น้ําส้มสายชูทําหน้าที่หนักเป็น 2 เท่าคือ ต่อสู้กับผู้บุกรุกทั้ง 2 ชนิด ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ทําไมเมื่อผสมน้ําส้มสายชูเข้ากับน้ํายาล้างแผลในปริมาณเท่าๆ กัน แล้วนํามาหยอดลงในหู จึงช่วยรักษาอาการของโรคได้ (แต่ทางที่ดี ถ้าหูคุณมีเชื้อรา ไปพบแพทย์ดีกว่าจ้า)
  • เชื้อราระหว่างง่ามเท้า การแช่เท้าในน้ําส้มสายชูเป็นวิธีรักษาโรคเชื้อราที่เท้าที่ได้ผลชะงัด

6. กลิ่นเหม็นแค่ไหนก็เอาอยู่

ลดอาการรักแร้เหม็น

น้ำส้มสายชูเปรียบเสมือนเป็นนักดูดกลิ่นตัวเทพ กรดรุนแรงที่ทําให้เกิดกลิ่นเปรี้ยวจี๊ดนั้นสามารถชนะขาดกลิ่นอื่นๆ ที่ไม่พึงปรารถนาได้ น้ําส้มสายชูสามารถลบล้างกลิ่นบุหรี่ออกจากเสื้อผ้า ทําให้ผ้าอ้อมเด็กมีกลิ่นสดชื่นขึ้นเมื่อผสมน้ําส้มสายชูลงในน้ําสุดท้ายที่ใช้ซักผ้า หรือขจัดกลิ่นเหม็นที่ซอกรักแร้หรือที่เท้าก็ยังได้

7. ลมพิษกับแมลงสัตว์กัดต่อยก็ใช้ได้

หยุดแมลงสัตว์กัดต่อย ไม่ว่าจะถูกพิษกะพรุนหรือโดนยุงกัด ก็สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยน้ําส้มสายชู โดยทําให้สารที่ก่ออาการปวดมีฤทธิ์เป็นกลาง นอกจากนี้น้ําส้มสายชูยังบรรเทาอาการคันของผื่นลมพิษได้ด้วย วิธีคือใช้น้ําเล็กน้อยผสมกับน้ําส้มสายชูให้เจือจาง แล้วใช้ก้อนสําลีชุบไปแต้มบริเวณที่เป็นผื่น

8. ปวดหัวหนึบหนับ น้ำส้มสายชูช่วยคุณได้

แก้ปวดหัว

คลายปวดศีรษะ น้ําส้มสายชูเป็นตํารับยาพื้นบ้านยอดนิยมที่ใช้แก้ปวดศรีษะ วิธีดั้งเดิมคือใช้ผ้าพันแผลจุ่มในน้ําส้มสายชูหมักจากแอปเปิลหรือที่เรียกกันว่า น้ําส้มไซเดอร์ (cider vinegar) แล้วนํามาวางบนหน้าผาก คุณอาจนําผ้าสะอาดมาชุบน้ําส้มไซเดอร์แล้วพันให้แน่นรอบศีรษะก็ได้ ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าทําไมวิธีนี้ถึงได้ผล แต่หลายคนก็ยืนยันว่าใช้ได้จริงๆ

9. บรรเทาอาการเจ็บคอได้ดี

แตงโมแก้หอบหืดได้ด้วยนะ

บรรเทาอาการเจ็บคอ น้ําส้มสายชูยังเป็นยาพื้นบ้านที่ใช้แก้เจ็บคอ บางคนแนะนําให้กลั้วคอด้วยน้ําส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ําอุ่น 1 แก้ว อีกตำราคือทํายาแก้ไอน้ําเชื่อมโดยการผสมน้ําส้มไซเดอร์กับน้ําผึ้งในสัดส่วนเท่ากัน แล้วคนหรือเขย่าจนเข้ากันดี


น้ำส้มสายชูหลากหลายชนิด

น้ําส้มสายชูที่เราพูดถึงในที่นี้เป็นน้ําส้มสายชูหมักจากพืชหลากชนิด ซึ่งถ้าคนเดินทางไปตามที่ต่างๆ ทั่วโลก จะพบน้ําส้มสายชูหลากชนิด คุณจะได้เห็นน้ําส้มสายชูที่หมักจากไวน์อ้อยในฟิลิปปินส์ จากไวน์มะพร้าวในไทย ส่วนในเมืองจีนหมักจากไวน์ข้าวแดง ขาว และดํา ที่มีกลิ่นหอมจากข้าวคั่ว ซึ่งมีความเป็นมากว่า 5,000 ปี ในที่อื่นๆ คุณอาจได้พบน้ําส้มสายชูที่ได้จากน้ําผึ้ง มันฝรั่ง อินทผลัม ถั่ว และผลเบอร์รี ส่วนในประเทศทางตะวันตก น้ําส้มสายชูชนิดที่คุณจะได้เห็นตามร้านค้าทั่วไปคือ น้ําส้มสายชูหมักจากข้าวมอลต์ที่ยังไม่ได้ขัดสี (กินกับมันทอดได้ดี) น้ําส้มไซเดอร์ (ทําจากแอปเปิล) น้ําส้มเชอร์รีและน้ําส้มไวน์ (ทําจากองุ่น) หรือน้ําส้มสายชูขาวธรรมดาที่ได้จากการกลั่นจากธัญพืช ซึ่งมีประโยชน์ทั้งเป็นน้ํายาทําความสะอาดเครื่องใช้ในบ้านและทั้งใช้ในการปรุงอาหาร

  • ส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงประโยชน์ในการบํารุงสุขภาพ คนมักพูดถึงน้ําส้มสายชูหมักจากแอปเปิลหรือน้ําส้มไซเดอร์ ทั้งนี้ด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ ในแอปเปิลมีสารเพกติน (pectin) ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีประโยชน์ต่อการย่อยอาหารอยู่มาก และอีกข้อคือในแอปเปิลมีกรดมาลิก (malic acid) ซึ่งสามารถรวมตัวกับแมกนีเซียมในร่างกายเราเพื่อเยียวยาบาดแผลและความเจ็บปวดได้
  • คุณอาจทําน้ําส้มสายชูใช้เองได้ แต่ต้องฆ่าเชื้อขวดโหลและอุปกรณ์ที่ใช้เสียก่อนเพื่อกันแบคทีเรียปนเปื้อน เริ่มด้วยไซเดอร์ (น้ําแอปเปิลเปลือกเขียว) หรือไวน์ การหมักจะเร็วขึ้นได้ถ้าเติม “หัวเชื้อ” น้ําส้มชนิดนั้นๆ เพื่อให้เป็นตัวเริ่มปฏิกิริยา เมื่อคุณทําจนเริ่มชํานาญ คุณจะกําหนดเวลาหมักได้ว่าเมื่อใดที่น้ําส้มหมักได้ที่แล้ว ซึ่งปกติต้องตรวจสอบด้วยการวัดค่าความเป็นกรด (pH)
  • เมื่อนําไปบรรจุขวดปิดฝาแล้ว น้ําส้มสายชูจะเก็บไว้ใช้ได้นานหลายเดือน แต่ถ้าใช้เพื่อรักษาโรค คุณจะเลือกใช้น้ําส้มสายชูชนิดใดก็ได้ที่มีขายทั่วไป

 

 

 

error: Content is protected !!